“เคล็ดลับเก็บผักสดในตู้เย็น: ทำอย่างไรให้ผักอยู่ได้นานและคงความสดชื่น”
สิ่งที่เราควรรู้ก่อนจะทำการเก็บผักสดเข้าตู้เย็น คือการแยกประเภทของผักให้ถูกต้องเสียก่อน ซึ่งจะมีอยู่ 7 กลุ่มด้วยกัน ดังนี้
1. แยกผักแต่ละชนิด วิธีนี้จะทำให้ผักสดนานขึ้น โดยการแบ่งผักออกเป็นกลุ่ม
กลุ่มที่ 1: ผักที่เสียง่าย เช่น ผักชี ผักกาดหอม ผักบุ้ง ถั่วงอก ถั่วฝักยาว เห็ด เป็นต้น โดยผักที่อยู่ในกลุ่มนี้จะสามารถเก็บรักษาไว้ได้ไม่นาน จึงควรรับประทานให้หมดโดยเร็วหลังจากที่ซื้อมาแล้ว
กลุ่มที่ 2: ผักที่มีความชื้นมาก เช่น ผักโขม ผักคะน้า ผักบุ้งจีน ควรเก็บรักษาในถุงหรือกล่องพลาสติกที่มีรูปร่างสำหรับระบายอากาศ และใช้กระดาษทิชชูเพื่อดูดความชื้นออก เพราะความชื้นจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผักสดเน่าได้ง่าย”
กลุ่มที่ 3: ผักที่เนื้อสัมผัสแข็ง เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว ควรเก็บในถุงหรือกล่องพลาสติก และเก็บในชั้นล่างของตู้เย็น เพื่อป้องกันการรับแสงและความร้อนที่อาจทำให้เสียสภาพได้”
กลุ่มที่ 4: ผักที่มีรสชาติเข้ม เช่น หัวไชเท้า หอมแดง ควรเก็บในถุงหรือกล่องพลาสติกแบบซีล เพื่อป้องกันการเจือปนกับกลิ่นของผักอื่นๆ ในตู้เย็น”
กลุ่มที่ 5: ผักที่มีกลิ่นเฉพาะ เช่น กระเทียม หอมแบ่ง ควรเก็บในถุงหรือกล่องพลาสติกแบบซีล และเก็บในชั้นล่างของตู้เย็น เพื่อป้องกันการกลิ่นผักที่อื่น”
กลุ่มที่ 6. ผักใบเขียว เช่น ผักกาด ควรเก็บในถุงพลาสติกหรือถุงผ้า พร้อมด้วยกระดาษทิชชูเพื่อดูดความชื้น และเก็บในชั้นบนของตู้เย็น เพื่อป้องกันการเสียสภาพ”
กลุ่มที่ 7: ผักใบเหลืองเช่น กวางตุ้ง ควรเก็บในถุงหรือกล่องพลาสติก และใช้กระดาษทิชชูเพื่อดูดความชื้น โดยเก็บในชั้นล่างของตู้เย็น”
“การแยกผักแต่ละชนิดก่อนเก็บรักษาในตู้เย็นเป็นเคล็ดลับที่สำคัญในการทำให้ผักสดยังคงคุณภาพและความสดชื่นได้นานขึ้น ดังนั้นอย่าลืมนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันของคุณนะคะ”
2. ไม่ล้างผักก่อนเก็บ
การล้างผักก่อนเก็บอาจเป็นการที่เราคิดว่าจะช่วยให้ผักสะอาดกว่า แต่ในความเป็นจริง การล้างผักก่อนเก็บอาจเสี่ยงทำให้ผักเสื่อมสภาพหรือเน่าเร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเก็บไว้ในช่องเก็บเย็นหรือบริเวณที่มีความชื้นสูง”
“ผักบางชนิดสามารถเก็บได้โดยไม่ต้องล้างน้ำ แต่อย่างไรก็ตาม เราควรเก็บผักไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี หรืออาจจะใช้ถุงพลาสติกที่มีระบบระบายอากาศเพื่อลดความชื้นภายในถุง นอกจากนี้ การเก็บผักในอุณหภูมิที่อยู่ระหว่าง 13-18 องศาเซลเซียสยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ผักเก็บได้นานยิ่งขึ้นด้วย”
3. ต้องทำให้แห้งก่อนนำไปเก็บ
การเก็บผักซีและต้นหอมในตู้เย็นโดยตรงอาจทำให้ผักเสียได้เนื่องจากการอมน้ำ การช้ำ และการเน่าเสีย ดังนั้นวิธีการเก็บผักที่ถูกต้องคือ การล้างและทำให้ผักแห้งก่อนเก็บ
หากต้องการล้างผักก่อนเก็บเข้าตู้เย็น สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือการล้างผักให้ถูกต้องเพื่อลดสารเคมีและรักษาคุณค่าทางอาหาร มีวิธีดังนี้
วิธีที่ 1: ล้างแบบปล่อยน้ำไหลผ่าน โดยเริ่มต้นจากการเด็ดผักเป็นใบ แล้ววางในตะแกรง หลังจากนั้นคลี่ผักและล้างให้สะอาดด้วยน้ำประมาณ 2 นาที วิธีนี้ช่วยลดสารเคมีในผักได้ 25-63% ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก”
วิธีที่ 2: ล้างด้วยน้ำส้มสายชูหรือเบคกิ้งโซดา ในกรณีของน้ำส้มสายชู ใช้น้ำส้มสายชูที่มีความเข้มข้น 5% ผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:10 และแช่ผักในน้ำนี้ประมาณ 10-15 นาที วิธีนี้ช่วยลดสารเคมีในผักได้ 60-84% ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก”
การล้างและทำให้ผักแห้งก่อนเก็บเป็นวิธีที่มั่นใจได้ในความสดชื่นและคุณค่าทางอาหารของผักที่เราบริโภค
เรียบเรียงบทความโดย
ของบริษัท วันเอเชียฟู้ด จำกัด
ติดต่อและติดตามข่าวสารจากเรา